Age of Empires 2: The Age of Kings (1999) ♥♥♥♥♥
เกมวางแผนรบ (Real-Time Strategy) สุดคลาสสิก ที่นำเสนอประวัติศาสตร์โลก และรวบรวมผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอดีตทั้งหลายมาไว้ในเกมเดียว คือไตรภาค Age of Empires, กับภาคที่ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุด มีชื่อเสียงที่สุด คนเล่นมากที่สุด ปัจจุบันมีขายเป็น HD Edition บน Stream คือ The Age of Kings ภาคสอง, ถ้าคุณยังไม่เคยเล่นเกมนี้ ถือว่าเสียชาติเกิดแล้ว
Age of Empires เป็นซีรีส์เกมคอมพิวเตอร์อิงประวัติศาสตร์ พัฒนาโดย Ensemble Studios วางจำหน่ายในนามของ Microsoft Studios มีทั้งหมด 3 ภาคหลัก และอีก 6 ภาคเสริม อันประกอบด้วย
- Age of Empires วางจำหน่ายที่อเมริกา 15 ตุลาคม 1997
> Age of Empires: The Rise of Rome วางจำหน่ายเมื่อ 31 ตุลาคม 1998 - Age of Empires II: The Age of Kings วางจำหน่ายบน Windows วันที่ 30 กันยายน 1999, HD Edition วางจำหน่ายบน Stream วันที่ 9 เมษายน 2013
> Age of Empires II: The Conquerors วางจำหน่าย 24 สิงหาคม 2000
> Age of Empires II: The Forgotten (HD Edition) วางจำหน่าย 7 พฤศจิกายน 2013
> Age of Empires II: The African Kingdoms (HD Edition) วางจำหน่าย 5 พฤศจิกายน 2015 - Age of Empires III วางจำหน่ายเมื่อ 18 ตุลาคม 2005
> Age of Empires III: The WarChiefs วางจำหน่ายที่อเมริกา 17 ตุลาคม 2006
> Age of Empires III: The Asian Dynasties วางจำหน่ายที่อเมริกา 23 ตุลาคม 2007
เนื้อหาของเกมจะเกี่ยวข้องกับ อารยธรรมหลายชนชาติซึ่งจะแตกต่างกันออกไป
– ภาคแรกเกี่ยวข้องกับยุคโบราณ อาทิ กรีก, โรมัน, อิยิปต์, บาบิโลเนีย, เปอร์เซีย ฯ
– ภาคสองจะเป็นยุคกลาง อาทิ Britons, Franc, Viking, เติร์ก, มองโกล, ญี่ปุ่น ฯ
– และภาคสามยุคก่อน-หลังปฏิวัติอุตสาหกรรม อาทิ สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส (นโปเลียน), รัสเซีย (ซาร์อีวานที่ 4), เยอรมนี (พระเจ้าฟรีดริชที่ 2), อินเดีย (จักพรรดิอักบัร) ฯ
หัวใจของเกมส์ คือ การวางแผนพัฒนาเมือง พัฒนาคน จากทรัพยากรธรรมชาติต่างๆที่มีอยู่อย่างจำกัด และพัฒนาอารยธรรมให้ทันโลก เพื่อใช้รับมือต่อกรกับศัตรูรุกรานต่างชาติต่างวัฒนธรรม
จุดเริ่มต้นของเกมนี้ เกิดจากความต้องการท้ารบกับเกม Civilization ที่สร้างออกมาก่อน ในเนื้อหาที่เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์โลก ซึ่ง Civilization นั้นเหมารวมโลกตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน แต่ Age of Empires ภาคแรก จะมีเรื่องราวแค่ยุคหิน (Stone Age) จนถึงยุคเหล็ก (Iron Age) เท่านั้น, ชื่อ Working Title ของเกมนี้คือ Dawn of Man ผลงานชิ้นแรกของ Ensemble Studios ออกแบบเกมโดย Bruce Shelley, Tony Goodman (artwork) และ Dave Pottinger (ดูแลในส่วน AI) จัดจำหน่ายโดย Microsoft Studio
Age of Empires 2 เป็นเกมคอมพิวเตอร์แรกๆที่ผมเริ่มเล่นตั้งแต่เด็ก (น่าจะสักตอน ม.ต้น) สมัยนั้นแถวบ้านมีความนิยมในเกม Counter Strike และ Red Alert แต่ด้วยความที่ผมไม่ชอบอะไรที่มีความรุนแรง และได้ไปเห็นเกมนี้เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ มีความน่าสนใจ ไปพันธุ์ทิพย์เลยหาซื้อแผ่นมา เมื่อได้เล่นก็ รู้สึกคุ้มค่า เป็นเกมที่มีประโยชน์ ใช้สมองได้ดีกว่า Counter Strike เป็นไหนๆ เลยชอบมากกว่ามากๆ, ตอนโตเป็นวัยรุ่น ก็ชอบที่จะหวนระลึก วันไหนนึกคึกอยากเล่นเกมเก่าๆ ก็มักนึกถึงเกมนี้อยู่เสมอๆ, ชอบที่สุดก็คือ สร้างแผนที่เองแล้วมาเล่น Death Match 2-3 ชั่วโมง นั่งอยู่หน้าคอมต่อเนื่องไม่เบื่อเลย ได้ความรู้สึกเหมือน ตัวเองเป็นพระเจ้าที่ได้สร้างทุกสิ่งอย่าง ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง และได้เห็นวิวัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงยุคสมัย และของโลก
รูปแบบการเล่นเกมนี้มีหลากหลาย อาทิ โหมดผู้เล่นเดียว (Single Player), โหมดหลายผู้เล่น (Multiplayer), โหมด Death Match,โหมด Campaign (เนื้อเรื่อง), ปัจจุบันมีโหมด Online เพิ่มขึ้นมาด้วย ฯ, ตอมผมเริ่มเล่นเกมนี้ ก็เข้าโหมด Death Match ก่อนเลย ไม่รู้คืออะไร แต่ชื่อ ‘Death’ มันน่าสนใจทีเดียว, ถ้าคุณยังไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน แนะนำให้ไปที่โหมด Campaign เริ่มเล่นตามเนื้อเรื่องก่อนสักพักนะครับ เพราะเกมมันจะสอนวิธีการเล่นให้ด้วย ซึ่งพอจับใจทางได้ เล่นเป็นแล้ว ค่อยมาหัดเล่น Death Match ก็ยังไม่สาย หรือถ้ามีเพื่อนเล่น ก็ท้า Death Match โหมด Multiplayer ดวลกันไปเลย
ในโหมด Campaign ของ The Age of Kings ประกอบด้วยเรื่องราวของวีรบุรุษ/วีรสตรี/กษัตริย์ ทั้งหมด 5 คน ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย William Wallace (Celts), Joan of Arc (Franks), Saladin (Saracens), Genghis Khan (Mongols) และ Barbarossa (Teutons), ใครสนใจก็ลองเข้าไปเล่นดูนะครับ ส่วนตัวผมไม่เคยเล่น Campaign จนจบ คือเล่นให้รู้ว่ารูปแบบเกมเป็นยังไง มีอะไรที่เรายังไม่รู้บ้าง (โหมด Campaign จะมี Tutorial อยู่) ถ้ารู้หมดแล้วไม่ต้องเล่นก็ได้ ไม่ได้สนุกอะไรเท่าไหร่
จุดเด่นของเกม คือการพัฒนาเปลี่ยนยุคสมัย ของแต่ละอารยธรรม อันประกอบด้วย 4 ยุค คือ ยุคมืด (Dark Age), ยุคเจ้าขุนมุนนาย (Feudal Age), ยุคปราสาท (Castle Age) และยุคอิมพีเรียล (Imperial Age) ซึ่งการเปลี่ยนยุคทั้งหลาย จะทำให้ประชาชนพลเมือง สิ่งก่อสร้าง มีความเจริญรุดหน้า พัฒนามากขึ้นกว่ายุคก่อน อาทิ จากที่ประชาชนเคยเก็บทรัพยากรธรรมชาติได้ครั้งละเล็กน้อยและใช้เวลามาก ก็จะเก็บได้มากขึ้นรวดเร็วขึ้น, บ้านเมืองจากที่เคยเป็นกระท่อมสร้างด้วยไม้ เมื่อพัฒนาสู่ยุคปราสาท ก็จะกลายเป็นหินเป็นอิฐ ซึ่งมีความแข็งแกร่งทนทานมากกว่า ฯ ทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนยุคสมัย เราก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่พัฒนาขึ้นทันตา นี่เป็นสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจมาก ในภาค 2 มีอารยธรรมทั้งหมด (นับเฉพาะภาคหลัก) 13 ชนชาติ ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าอยากเห็นทั้งหมดครบทุกอารยธรรมก็ต้องเล่นอย่างน้อย 13 รอบ!
โหมดที่ผมนิยมเล่นที่สุด แน่นอนก็คือ Death Match สู้กับคอมพิวเตอร์ (ถ้าเมื่อก่อนมีเพื่อนเล่นก็จะนิยมโหมด Multiplayer) AI เกมนี้ถือว่าเก่งใช้ได้นะครับ ถ้าเลือกระดับยากนี่เล่นเหนือเลยละ รุกรานกันตั้งแต่ยุคสมัยแรก ถ้าเลือก Beginner ก็อ่อนมาก แต่ก็จะเล่นเพลิดเพลิน สบายๆ, ความสนุกของ Death Match คือการได้วางแผนการจัดการ สร้างตัวละคร/ทหาร เก็บทรัพยากร ออกสำรวจ สร้างสิ่งก่อสร้าง พัฒนาเมือง และเตรียมพร้อมสู้รบ สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมๆกันในโหมด Death Match ซึ่งจุดจบคือ ไม่เราหรือศัตรูต้องถูกทำลายสิ้นซาก (หรือยอมแพ้) หรือถ้าตั้งเวลาไว้ในเกม ก็จะนับคะแนน โดยขึ้นอยู่กับ ปริมาณทรัพยากรที่เก็บได้, ปริมาณสิ่งก่อสร้าง/ทหาร/วิวัฒนาการของเมือง การอัพเกรด และผลแพ้ชนะในสงครามย่อย ฯ
ถ้าพูดถึงเฉพาะภาคหลัก ประเทศที่ผมชอบเล่นที่สุดคือ Persian เหตุเพราะจะมี Unit หนึ่งที่แข็งแกร่งที่สุด ทรงพลังที่สุด แพงที่สุด และประเทศอื่นไม่มี นั่นคือ ‘ช้าง’ แต่ถ้าสนามรบนั้นคือ Forest, Island, River ฯ ก็จบกันนะครับ ช้างจะดูคลุกคลิกและไร้ประโยชน์มาก (แต่ช้างชนต้นไม้ล้มได้นะครับ)
เกร็ด: บรรดา Unit ของทหารธรรมดาที่แข็งแกร่งที่สุด ทางบกคือทหารม้า Paladin ส่วนทางน้ำ Elite Cannon Galleon ถ้าประเทศไหนสามารถอัพเกรดได้ถึงสองอย่างนี้ การันตีได้เลยว่าทหารของคุณจะแข็งแกร่งที่สุด (แต่ราคา/ทรัพยากรก็แพงสุดด้วยนะ)
เทคนิคของมือโปร คือถ้าเล่นแข่งกับเพื่อน ความเร็วในการพัฒนาประเทศสำคัญที่สุด คือเราต้องรีบเปลี่ยนยุคไปสู่ยุคสุดท้ายให้เร็วที่สุด ใครเปลี่ยนก่อนจะได้เปรียบมาก เพราะมีหลายการอัพเกรด ที่ช่วยเร่งความเร็วในการพัฒนา/เก็บเกี่ยวทรัพยากร ที่มักจะอยู่ที่ยุคสุดท้าย, วิธีการที่จะทำให้เร็วคือ เริ่มต้นต้องเร่งเก็บทรัพยากรที่จำเป็น และสร้างสิ่งก่อสร้างตามเงื่อนไขของการเปลี่ยนยุคก่อน ผมจำไม่ได้แล้วว่าเร็วที่สุดที่เคยทำได้คือกี่นาที แต่คิดว่าไม่น่าเกิน 20-30 นาที ก็ต้องอยู่ยุคสุดท้ายแล้ว ไม่เช่นนั้นเสียเปรียบคนอื่นแน่
อีกเทคนิคที่อยากแนะนำไว้ คือใช้ตลาดให้เป็น, การอัพเกรดตลาด จะทำให้ราคาทรัพยากรถูกลง/แพงขึ้น ต้องดูให้ดีก่อนกดอัพเกรด, อาหารเป็นทรัพยากรชนิดเดียวที่มีไม่จำกัด (สามารถสร้างฟาร์มเพิ่มได้อยู่เรื่อยๆ) ที่มีจำกัดแน่ๆคือ หิน (สำหรับไม้ ถ้าได้แผนที่ป่า ยังไงก็มีไม่มีวันหมด แต่ถ้าได้ทะเลหรือเกาะ อาจมีปริมาณจำกัด) และหินไม่ใช่ทรัพยากรที่มีประโยชน์มากนัก สิ่งก่อสร้างที่ใช้หินเยอะคือ หอคอยกับปราสาท, โดยปกติผมจะสร้างปราสาทประมาณ 10 หลัง ซึ่งพอครบโควต้าแล้ว หินที่เหลือก็จะเอาไปขาย เพื่อซื้อทรัพยากรอื่นที่ขณะนั้นขาดแคลน จะมีประโยชน์มาก
แถมให้อีกเทคนิค คือการตามล่าหา relic มาใส่โบสถ์ นี่เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ของ Monk ที่นอกจากใช้ Heal และเพิ่มพลังให้กับนักรบแล้ว (ควรมีติดในทุกกองทัพอย่างน้อย 1-2 ตัว) ยังเป็นคนเดียวที่สามารถแบก relic กลับมาที่โบสถ์ แล้วจะได้เงินเพิ่มด้วย (เป็นเงินจากการทำบุญ) ใครได้ครอบครอง relic หลายชิ้น ทองก็จะเพิ่มขึ้นเร็วมาก และถ้าได้ครบ 5 ชิ้น ก็ต้องมีการรีบหน่อย เพราะเกมจะจบ (เหมือนกับถ้ามีการสร้าง Wonder ขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้ว เกมจะเข้าสู่กระบวนการนับถอยหลังเพื่อจบเกม)
หลังเกมจบจะมีสรุปคะแนนขึ้น ผมชอบที่จะนั่งดูกราฟวิวัฒนาการ Timeline ที่แสดงถึงความสามารถในการพัฒนา บริหารจัดการประเทศของแต่ละคน, ประเทศไหนที่มีพัฒนาการดีกว่า เก่งกว่า ก็จะมีพื้นที่กราฟใหญ่โต ครอบครองกินเนื้อที่ส่วนแบ่งพื้นที่กราฟของประเทศอื่น, ส่วนประเทศที่ขนาดพื้นที่เล็กลงเรื่อยๆ ก็แสดงถึงใกล้ถึงจุดวิบัติ (ถ้าหายไปเลยคือยอมแพ้ หรือล่มสลายไปแล้ว)
เพลงประกอบของเกมแต่งโดย Stephen Rippy, ใน Death Match ถ้าคุณเลือกประเทศที่จะเล่น แล้วกด Start จะมีเสียงบรรเลง intro แทนประเทศ/ชนเผ่า/อารยธรรม นั้นๆ นี่เป็นเสียงที่ผมชอบฟังมาก เพราะทำให้เราได้กลิ่นอาย รสสัมผัส เข้าใจพื้นฐานของชนชาตินั้นๆโดยทันที, เพลงประกอบเกมนี้ แม้จะดูไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการ ส่วนใหญ่ใช้เครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้น และเป็นเสียงสังเคราะห์ (digital sample) แต่มีความหลากหลาย (ตามอารยธรรมของประเทศต่าง), ผมหยิบ Main Theme ของเกมนี้ มาให้แฟนเดนตายระลึกความหลังกันนะครับ เป็นเพลงที่คนเคยเล่นเกมนี้จดจำฝังขึ้นใจอย่างแน่นอน
Age of Empire เป็นเกมที่ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านยอดขายทั่วโลก สถิติเมื่อปี 2008 มียอดจำหน่ายมากกว่า 20 ล้านก็อปปี๊, นักวิจารณ์ทั้งหลายให้คำยกย่องว่า เป็นเกมที่มีอิทธิพลต่อแนว Real-Time Strategy (RTS) อย่างมาก อาทิ Rise of Nations, Empire Earth, Cossacks หรือแม้แต่ Star Wars: Galactic Battlegrounds ก็ยังได้รับอิทธิพลจากเกมนี้ และใช้ Engine แบบเดียวกับ Age of Empires ภาคแรก
กับคนวัย 20+ ขึ้นไป (ณ ปี 2016) เชื่อว่าอย่างน้อยคุณน่าจะเคยได้ยินชื่อเกมมานี้ บางคนอาจยังไม่มีโอกาสได้เล่น ผมก็ขอแนะนำเลยนะครับ ไม่มีเพื่อนเล่น ไม่รู้เล่นยังไงก็เปิดโหมด Campaign เล่นเนื้อเรื่องไปสักพัก พอเล่นเป็นแล้วก็ไปหัด Death Match แล้วคราวนี้จะหยุดไม่ได้เลย ติดงอมแงมเหมือนติด Civilization หรือ Homeworld หรือเกมวางแผนรบอื่นๆ ฯ
ตอนที่ผมเห็น HD Edition บน Stream วางขายเมื่อหลายปีก่อน รู้สึกตื้นตันใจอย่างมาก เพราะคิดว่าเกมนี้จบสิ้น ตายไปนานแล้ว แทบจะรีบกดซื้อมาโดยทันที, นึกถึงตอนสมัยที่เล่นเกมนี้แรกๆ ตอนนั้นไม่มีเงินซื้อแผ่นเถื่อนเล่น ปัจจุบันมีเงินใช้เองแล้วก็อยากสนับสนุนของแท้ ขอบคุณผู้สร้างเกมนี้ (แม้ Ensemble Studios จะปิดไปแล้วก็เถอะ)
ตอน Expansion ภาคเสริมออกใหม่ตอนปลายปี 2013 ผมอึ้งไปเลย นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด คาดหวังมาก่อน เกมที่หมดสมัยตกยุคไปนานโข แล้วอยู่ดีๆมีภาคเสริมใหม่ออกมาขาย, Microsoft Studios ทำเพื่อสนองแฟนเดนตายของเกมนี้โดยเฉพาะ เรื่องราวใหม่ สิ่งก่อสร้าง อารยธรรมใหม่ แฟนๆเกมนี้รักตายเลย
ว่ากันตามตรง ผมมี Age of Empires ภาคแรกกับภาคสามในครอบครองนะครับ แต่ยังไม่เคยเล่น เลยไม่สามารถแสดงความเห็นเปรียบเทียบได้ว่า ภาคไหนสนุกกว่ากัน คือแบบว่าเกิดมาก็เล่นแต่ภาคนี้ ได้ยินว่าภาคอื่นสนุกไม่เท่าก็ไม่เคยเล่นเลย… ก็น่ะ เกมสไตล์นี้ ถ้าเจออะไรที่ชอบที่สุดแล้ว ก็มักไม่อยากเล่นภาคอื่นเท่าไหร่ (คือเกมมันไม่เหมือน Elder Scroll ที่เนื้อเรื่องภาค 3-4-5 เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ซึ่ง Age of Empires มันก็คือ Age of Empires รูปแบบวิธีการเล่นคงจะคล้ายๆเดิม แค่เปลี่ยนยุคสมัย/อารยธรรมเท่านั้น)
ถ้ามีโอกาส และคุณเป็นคนชอบเล่นเกม นี่เป็นเกมบังคับ ที่ต้องเล่นให้ได้ก่อนตาย จะรอซื้อตอน Stream ลดราคาก็ได้ เห็นสูงสุด 75% ตามช่วงเทศกาลลดราคา ส่วนภาคเสริมคงต้องรอสักพักถึงลดได้ขนาดนั้น ถ้าอยากเล่นก็จัดไปเลยนะครับ
มีแนวโน้มสูงมาก ที่ต่อไปเกมนี้จะถูก port ไปลง smartphone เพราะสเป็คเครื่องมือถือ น่าจะแรงพอที่จะเล่นเกมนี้ได้แล้ว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็เยี่ยมมากๆ เพราะจะมีโอกาสเข้าถึงผู้เล่นได้หลากหลายมากขึ้น
จัดเรต PG จริงๆจะทั่วไปก็ได้ แต่ฉากรบราฆ่าฟัน สักหน่อยแล้วกัน เด็ก 3 ขวบคงเล่นไม่ได้แน่