Sight & Sound: Critic’s Poll 2012

Sight & Sound: Critic’s Poll 2012

จัดอันดับหนังจากนิตยสาร Sight & Sound ของนักวิจารณ์เมื่อปี 2012

  1. Vertigo (1958) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥
    “Vertigo มีความหลงใหล คลั่งไคล้ คิดครอบงำ คือความลึกล้ำของ Alfred Hitchcock ที่ต้องใช้การเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”
  2. Citizen Kane (1941) : Orson Welles
    “Citizen Kane หนังแนวทดลองที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังสือเรียนของวิชาภาพยนตร์ ด้วยผลงานแสดงและกำกับโดยชายอัจฉริยะ Orson Welles ดูให้ได้ก่อนตาย นี่คือหนังที่สมบูรณ์ทุกองค์ประกอบเรื่องของโลก”
  3. Tokyo Story (1953) : Japan – Yasujirō Ozu
    “ผลงานระดับตำนาน กับผู้กำกับระดับตำนาน Yasujirō Ozu สไตล์การกำกับภาพที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อเรื่องที่กินใจ การตัดต่อ ใส่เสียงที่เรียบง่าย นุ่มนวล แต่มีความหมายที่ลึกซึ้งไปถึงทรวง”
  4. The Rules of the Game (1939) : France – Jean Renoir
    “The Rules of the Game หนังของ Jean Renoir เป็นหนังที่มีความเป็นศิลปะที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่คนทุกคนจะเข้าใจ และตีความได้ตรงกับที่ผู้กำกับนำเสนอ แต่ความลึกล้ำนี้เป็นแม่พิมพ์ต้นฉบับของหนังทุกเรื่องในยุคปัจจุบัน”
  5. Sunrise: A Song of Two Humans (1927) hollywood : F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
    “Sunrise: A Song of Two Humans คือหนังเงียบที่มีความไพเราะที่สุด”
  6. 2001: A Space Odyssey (1968) : Stanley Kubrick
    “2001 A Space Odyssey หนัง Sci-fi แห่งมวลมนุษย์ชาติ ที่ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
  7. The Searchers (1956) hollywood : John Ford ♥♥♥♥♡
    “The Searchers คือการออกเดินทางเพื่อค้นหาวิธีไถ่โทษตนเองของผู้กำกับ John Ford โดยมี John Wayne เป็นตัวตายตัวแทน”
  8. Man with a Movie Camera (1929) : Dziga Vertov
    “Man with a Movie Camera นี่คือหนังของคนทำหนัง ไม่ใช่หนังของนักดูหนัง จงใช้ตาดูอย่างใช้ใจดู แล้วคุณจะเห็นความน่าทึ่ง ความสวยงามและความล้ำยุค ที่ยอดเยี่ยมกว่าหนังสมัยนี้อีก”
  9. The Passion of Joan of Arc (1928) French : Carl Theodor Dreyer ♠♠♠♠♠
    “อย่าริอาจเรียกตัวเองว่าคอหนัง ถ้ายังไม่เคยดู The Passion of Joan of Arc”
  10. 8 1/2 (1963) : Italy – Federico Fellini
    “Federico Fellini 8 1/2 เป็นหนังที่ผสมผสานระหว่าง Reality กับ Fantasy ได้อย่างลงตัวและน่าพิศวง ที่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าใจได้ เรียกได้ว่าเป็นหนังที่มีอิสระภาพมากที่สุดในโลก”
  11. Battleship Potemkin (1925) : Sergei Eisenstein
    “Battleship Potemkin โดยผู้กำกับรุ่นบุกเบิก Sergei Eisenstein นี่คือหนังที่ทรงพลังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ต่อศาสตร์ภาพยนตร์ และต่อโลก”
  12. L’Atalante (1934) French : Jean Vigo ♥♥♥♥♡
    “L’Atlante คือภาพยนตร์แห่งการเดินทางของความรักและชีวิตของผู้กำกับ Jean Vigo ที่มีความสวยงามที่สุดในโลก”
  13. Breathless (1960) French : Jean-Luc Godard ♥♥♡
    “Breathless ของ Jean-Luc Godard จะทำให้คุณหยุดหายใจ เพราะขาดอาการหายใจ”
  14. Apocalypse Now (1979) : Francis Ford Coppola
    “Apocalypse Now หนังสงครามที่เจ๋ง และบ้าคลั่งที่สุดในโลก กำกับโดย Francis Ford Coppola”
  15. Late Spring (1949) : Japan – Yasujirō Ozu
    “Late Spring อีกหนึ่ง masterpiece ของ Yasujirō Ozu และ Setsuko Hara ในบท Noriko เรื่องราวของหญิงสาวในวัยที่ต้องแต่งงาน หนังแฝงแนวคิด เหตุผลของการแต่งงาน และบทสรุปที่ไม่ธรรมดา ตามสไตล์ของ Ozu”
  16. Au Hasard Balthazar (1966) : France – Robert Bresson
    “Au Hasard Balthazar นี่เป็นหนังเกี่ยวกับชีวิตคน จากมุมมองของลาน้อยตัวหนึ่ง สไตล์กำกับของ Robert Bresson คนดูจะไม่สามารถรับรู้อารมณ์ของตัวละครหรือลาน้อยได้ แต่ความรู้สึกที่ได้จากการดู นี่เป็นประสบการณ์แปลกมาก ถ้าไม่ชอบก็เกลียดหนังไปเลย”
  17. Seven Samurai (1954) : Japan – Akira Kurosawa
    “Seven Samurai หนังของ Akira Kurosawa นำแสดงโดย Toshiro Mifune และ Takashi Shimura นี่คือหนัง Epic ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ห้ามตายก่อนได้ดูหนังเรื่องนี้เด็ดขาด!”
  18. (=17) Persona (1966) Swedish : Ingmar Bergman ♥♥♥♥♡
    “Persona คือกระจกสองด้านในชีวิตและการงานของ Ingmar Bergman ที่สะท้อนข้างหนึ่งคือ Bibi Andersson และอีกข้างคือ Liv Ullmann”
  19. The Mirror (1975) Russian : Andrei Tarkovsky ♥♥♥
    “The Mirror กระจกสะท้อนชีวิตของผู้กำกับ Andrei Tarkovsky เขาไม่ได้อยากให้ใครเห็น จึงวางกลไกไว้อย่างลึกซึ้ง มีแต่ผู้ถูกเลือกเท่านั้นที่จะเข้าไปถึงได้”
  20. Singin’ in the Rain (1951) : Stanley Donen
    “Singin’ in the Rain นี่คือหนังที่ห้ามตายก่อนดู นำแสดงโดย Gene Kelly กำกับโดย Stanley Donen หนังเพลงที่สวยที่สุด ไพเราะที่สุด สนุกที่สุด และเป็นจุดสูงสุดของหนังเพลง hollywood”
  21. L’Avventura (1960) Italian : Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥♡
    “L’Avventura ชีวิตคือการเดินทาง เป้าหมายคืออะไร Michelangelo Antonioni ก็ตอบไม่ได้ เลยทิ้งปริศนาไว้ ให้ผู้ชมคิดวิเคราะห์ค้นหาเอง”
  22. (=21) The Godfather (1972) hollywood : Francis Ford Coppola ♥♥♥♥♡
    “The Godfather คือพ่อทูนหัวของวงการภาพยนตร์”
  23. (=21) Le Mepris(1963) : France – Jean-Luc Godard
    “Le Mepris อีกหนึ่ง masterpiece ของ Jean-Luc Godard ที่ต้องอาศัยการสังเกตและตีความพอสมควรถึงจะเข้าใจได้ ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจและชอบหนังเรื่องนี้”
  24. Ordet (1955) Danish : Carl Theodor Dreyer ♠♠♠♠♠
    “Ordet ของ Carl Theodor Dreyer คือหนังพิสูจน์ศรัทธาสุดยิ่งใหญ่ ของผู้นับถือพระเจ้า เท่านั้น!”
  25. (=24) In the Mood for Love (2000) Hong Kong : Wong Kar-Wai ♥♥♥♥♡
    “In the Mood for Love ในห้วงอารมณ์รักสไตล์ลิสของ Wong Kar-Wai มี Tony Leung Chiu-Wai ที่จะโหยระลึกหา Maggie Cheung ไปชั่วนิรันดร์”
  26. (=24) Rashomon (1950) : Japan – Akira Kurosawa
    “Rashomon เป็นหนังที่มีการเล่าเรื่องเดียวกัน แบบต่างมุมมองที่ยอดเยี่ยมมากๆ ทั้งงานภาพ ศิลป์ เพลงประกอบ กำกับโดย Akira Kurosawa นำแสดงโดย Toshiro Mifune แต่นี่ไม่ใช่หนังที่ทุกคนจะดูแล้วเข้าใจได้”
  27. Andrei Rublev (1966) : Russia – Andrei Tarkovsky
    “ใครดูหนังเรื่องนี้ไม่จบถือว่าพลาดแล้ว Andrei Rublev ความสวยงามบนความยิ่งใหญ่อลังการ ไม่มีหนังเรื่องไหนที่ทำให้คุณทั้งเกลียดและหลงรักได้ในเรื่องเดียวกัน แต่ Andrei Tarkovsky ผู้กำกับชาวรัสเซียคนนี้ทำได้”
  28. Mulholland Dr. (2002) : David Lynch
    “Mulholland Drive หนังเกี่ยวกับความฝันและความจริง โดย David Lynch นี่คือหนังที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก”
  29. Stalker (1979)
  30. (=29) Shoah (1985)
  31. The Godfather Part II (1974) hollywood : Francis Ford Coppola ♥♥♥♥
    “The Godfather Part II ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ไม่แพ้ภาคแรก มีงานสร้าง เรื่องราว ที่ใหญ่โตกว่า แต่ถ้าถามภาคไหนเยี่ยมกว่า บอกเลยว่า ตอบไม่ได้”
  32. (=31) Taxi Driver (1976) hollywood : Martin Scorsese ♥♥♥♥
    “Taxi Driver คือจิตวิญญาณที่ล่องลอยของ Martin Scorsese และ Robert De Niro จนกลายเป็นความบ้าคลั่ง สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ”
  33. Bicycle Thieves (1948) Italian : Vittorio De Sica ♥♥♥♥♡
    “Bicycle Thieves ของ Vittorio De Sica ได้ขโมย 2 อย่าง จักรยาน และหัวใจของผู้ชม”
  34. The General (1926) hollywood : Clyde Bruckman & Buster Keaton ♥♥♥♥◊
    “The General คือ Masterpiece ที่อเมริกันมากไปหน่อยของ Buster Keaton แต่ก็ยังสุดยอดด้วยเทคนิคที่เหนือชั้น อันตราย สมจริง เป็นหนังเกี่ยวกับรถไฟที่สนุกที่สุดและตลกที่สุดในโลก”
  35. (=34) Psycho (1960) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
    “สิ่งที่ทำให้ Psycho เป็นผลงาน Masterpiece ของ Alfred Hitchcock และเป็นอมตะ คือ ความกลัวของมนุษย์ที่ปรากฎอยู่ในหนัง”
  36. Metropolis (1927) German : Fritz Lang ♥♥♥♥
    “Metropolis คือสุดยอดหนัง Epic, Sci-Fi สุด Classic โดยผู้กำกับ Fritz Lang ที่ดีที่สุดในโลกก่อนการมาถึงของ 2001: A Space Odyssey”
  37. (=36) Jeanne Dielman, 23 Quai du Commerce, 1080 Bruxelles (1975)
  38. (=36) Sátántangó (1994)
  39. The 400 Blows (1959) : French – François Truffaut
    “François Truffaut กับ The 400 Blows หนัง Semi-Autobiographical ของผู้กำกับเอง ที่นำเสนอโลกของเด็กที่ทำให้ผู้ใหญ่ถึงกับสะอึก ทึ่งไปกับการแสดงของ Jean-Pierre Léaud และการกำกับภาพ โดยเฉพาะฉากวิ่งๆๆ ที่ยังเป็นที่กล่าวถึงในปัจจุบัน”
  40. (=39) La Dolce Vita (1960) Italian : Federico Fellini ♠♠♠♠♠
    “La Dolce Vita ออกค้นหาปรัชญาแห่งความสุขในชีวิต ของผู้กำกับ Federico Fellini และนักแสดงนำ Marcello Mastroianni”
  41. Journey to Italy (1954) Italian : Roberto Rossellini ♥♥♥♥♡
    “Journey to Italy คือเรื่องราวการผจญภัย มีไกด์คือ Roberto Rossellini ลูกทัวร์ประกอบด้วย Ingrid Bergman และ George Sanders ที่จะนำคุณผ่าน Naples เมืองแห่งความตายขึ้นสู่สวรรค์”
  42. (=41) Pather Panchali (1955) : India – Satyajit Ray
    “Pather Panchali หนังเรื่องแรกของ The Apu Trilogy โดยบรมครูผู้กำกับหนังของอินเดีย Satyajit Ray ที่มีความสวยงาม โดยเฉพาะการเล่าเรื่องที่มีความซื่อตรง บริสุทธิ์ที่สุด”
  43. Pierrot le Fou (1965) French : Jean-Luc Godard ♥♥♥♥♡
    “Pierrot le Fou ของ Jean-Luc Godard ได้ทำลายกฎเกณฑ์การเล่าเรื่อง ด้วยการใช้อารมณ์ เป็นตัวดำเนินเรื่อง สวยงาม แตกต่าง ไม่เหมือนใคร”
  44. (=43) Close-Up (1990) Iranian : Abbas Kiarostami ♥♥♥♥
    “Close-Up ของผู้กำกับ Abbas Kiarostami ที่อาจไม่ใช่เป็นหนังที่ดีที่สุด แต่เป็นหนังที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของผู้กำกับมากที่สุด”
  45. (=43) Some Like It Hot (1959) : Billy Wilder
    “Some Like It Hot บางคนชอบเล่นกับไฟ กำกับโดย Billy Wilder นำแสดงโดย Marilyn Monroe, Tony Curtis และ Jack Lemmon นี่เป็นหนังที่ตลกที่สุดในโลก”
  46. (=43) Playtime (1967) French : Jacques Tati ♥♥♥♥♡
    “Playtime คือสวนสนุกที่ใช้พักผ่อนคลายเครียดของ Jacques Tati มีแห่งเดียวเท่านั้นในจักรวาล”
  47. (=43) Gertrude (1964)
  48. Histoire(s) du Cinéma
  49. (=48) The Battle of Algiers (1966) : Italy – Gillo Pontecorvo
    “The Battle of Algiers อีกหนึ่งสุดยอดหนังโดยผู้กำกับ Gillo Pontecorvo และเพลงประกอบโดย Ennio Morricone นี่คือหนังต้นแบบของการต่อสู้สงครามแบบ Guerrilla ที่มีอิทธิพลต่อผู้ก่อการร้ายทั่วโลก”
  50. City Lights (1931) hollywood : Charlie Chaplin ♥♥♥♥♥
    “City Lights ของ Charlie Chaplin มีฉากจบที่สวยงามที่สุดในโลก”
  51. (=50) Ugetsu (1953) Japanese : Kenji Mizoguchi 
    “Ugetsu คือภาพวาด Masterpiece ของสายฝนยามแสงจันทรา ที่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยผู้กำกับ Kenji Mizoguchi”
  52. (=50) La Jetée (1962) French : Chris Marker ♥♥♥♥
    “La Jetée หนังสั้นโดยผู้กำกับ Chris Marker มีความแปลกประหลาดในการนำเสนอ ที่สร้างความลึกล้ำ สวยงาม ไม่เหมือนใคร”
  53. North by Northwest (1959) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
    “North by Northwest ของ Alfred Hitchcock อาจไม่ได้มีความตื่นตาเหมือนหนัง Action สมัยใหม่ แต่มีความตื่นใจจากความระทึกขวัญสุดตื่นเต้น ในทุกเทคนิคการนำเสนอ”
  54. (=53) Rear Window (1954) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
    “Rear Window อีกหนึ่ง Masterpiece ของ Alfred Hitchcock มี James Stewart ที่ถึงจะนั่งอยู่เฉยๆ แต่ก็มีส่วนร่วมกับหนังอย่างที่สุด”
  55. (=53) Raging Bull (1980) hollywood : Martin Scorsese ♠♠♠♠♠
    “Raging Bull ชีวิตต้องเอาหัวพุ่งชนเหมือนกระทิง ภาพยนตร์อัตชีวประวัติของทั้งนักมวย Jack LaMotta ผู้กำกับ Martin Scorsese และนักแสดงนำ Robert De Niro”
  56. M (1931) : Germany – Fritz Lang
    “M ผลงาน masterpiece หนังเสียงเรื่องแรกของผู้กำกับ Fritz Lang ว่ากันว่านี่คือหนัง Serial-Killer เรื่องแรกของโลก นำแสดงโดย Peter Lorre ใบหน้าฆาตกรของเขากลายภาพติดตาของคนทั้งโลก คอหนังคลาสสิคไม่ควรพลาด”
  57. The Leopard (1963) : Italian – Luchino Visconti
    “The Leopard โดยผู้กำกับ Luchino Visconti หนึ่งในหนังที่มีภาพสวย เพลงเพราะที่สุดในโลก”
  58. (=57) Touch of Evil (1958) hollywood : Orson Welles ♥♥♥♥
    “Touch of Evil เป็นจดหมายสั่งลา hollywood ของ Orson Welles ที่มี Charlton Heston เล่นเป็น Mexican”
  59. Sherlock Jr. (1924) hollywood : Buster Keaton ♥♥♥♥◊
    “Sherlock Jr. คือหนังแพรวพราวด้วยเทคนิคที่สุดของ Buster Keaton ที่แฟนเดนตายจะว่ายอดเยี่ยมกว่าหนังเรื่องไหนของ Charlie Chaplin เสียอีก”
  60. (=59) Barry Lyndon (1975)
  61. (=59) The Mother and the Whore (1973) French : Jean Eustache ♥♥♥♡
    “The Mother and the Whore ของ Jean Eustache คือ Masterpiece ที่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อสุดขีด แต่มันก็มีเหตุผลของมัน ที่อาจต้องให้นักประวัติศาสตร์ หรือชาวฝรั่งเศสเท่านั้นถึงเข้าใจได้”
  62. (=59) Sansho the Bailiff (1954) : Japan – Kenji Mizoguchi
    “Sansho the Bailiff เป็นหนังเกี่ยวกับความหมายของ ‘ความเป็นมนุษย์’ นี่อาจเป็นหนังที่ดูขาดๆเกินๆ และเห็นแก่ตัวเสียหน่อย แต่คอหนังของ Kenji Mizoguchi ไม่ควรพลาด”
  63. Wild Strawberries (1957) Swedish : Ingmar Bergman ♥♥♥♡
    “Wild Strawberries ของ Ingmar Bergman จะทำให้คุณหวนระลึกถึงอดีต และค้นหาคุณค่าชีวิตของตัวเอง”
  64. (=63) Modern Times (1936) hollywood : Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
    “Modern Times คือหนังเงียบเรื่องสุดท้ายของ Charlie Chaplin ในบท The Tramp ที่ยุคสมัย Silent Era พ่ายแพ้กับให้กับโลกยุคใหม่ Modern Era นี่เป็นหนังที่ดูเมื่อไหร่ก็ไม่เก่าเลยและต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
  65. (=63) Sunset Boulevard (1950) hollywood : Billy Wilder ♥♥♥♥♡
    “Sunset Blvd. ของ Billy Wilder สร้างขึ้นเพื่อคนรักหนังโดยเฉพาะ สำหรับเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เบื้องหน้าวงการมายาที่ยิ่งใหญ่ ข้างหลังนั้นไซร้ ใช่ว่าจะสวยงาม”
  66. (=63) The Night of the Hunter (1955) hollywood : Charles Laughton ♥♥♥♥♡
    “The Night of the Hunter คือนิทานก่อนนอนชั้นเลิศ สอนเด็กๆได้สาระ สอนผู้ใหญ่ได้ปัญญา สะท้อนเรื่องราวทางสังคมได้ทุกระดับ”
  67. (=63) Pickpocket (1959) : France – Robert Bresson
    “ไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องไหนที่เข้ากับสไตล์การกำกับของ Robert Bresson ได้มากกว่า Pickpocket อีกแล้ว”
  68. (=63) Rio Bravo (1959) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♡
    “Rio Bravo ของผู้กำกับ Howard Hawks และ John Wayne ให้นิยามความเป็น’อเมริกันชน’ได้ตรงตัวที่สุด”
  69. Blade Runner (1982) hollywood : Ridley Scott ♥♥♥♡
    “Blade Runner ภาพยนตร์อภิมหาไซไฟตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ มีเอ็ฟเฟ็กตระการตายิ่งใหญ่ และเพลงประกอบสุดล้ำยุคสมัย สร้างโดยผู้กำกับ Ridley Scott และนำแสดงโดย Harrison Ford”
  70. (=69) Blue Velvet (1986) hollywood : David Lynch ♥♥♥♥
    “Blue Velvet หนังตีแผ่ด้านมืดของสังคมและจิตใจมนุษย์ โดยผู้กำกับ David Lynch ที่ดูจบแล้วจะทำให้คุณอารมณ์นัวร์ๆ”
  71. (=69) Sans Soleil (1983) French : Chris Marker ♥♥♥♥
    “Sans Soleil ภาพยนตร์สารคดีของ Chris Marker จดบันทึกเรื่องราวการเดินทางได้อย่างสวยงาม และมีสัมผัสสอดคล้องราวกับบทกวี”
  72. (=69) A Man Escaped (1956)
  73. The Third Man (1949) : Carol Reed
    “Carol Reed กำกับ The Third Man หนัง British ที่ยอดเยี่ยมที่สุด กับการแสดงของ Joseph Cotten และ Orson Welles เราจะได้เห็นงานภาพที่แปลกๆ เครื่องดนตรี zither การตัดต่อที่รวดเร็วฉับไว เป็นส่วนผสมที่แปลกแต่ลงตัวแบบสุดๆ”
  74. (=73) L’Eclisse (1962) Italian : Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥
    “L’Eclisse ของผู้กำกับ Michelangelo Antonioni มีความทะเยอทะยานเป็นที่สุด อดีต ปัจจุบัน อนาคตและ Beyond”
  75. (=73) Children of Paradise (1945) French : Marcel Carné ♥♥♥♥♡
    “Children of Paradise คือจดหมายรักต่อศิลปะการแสดงทุกแขนง หนึ่งในหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฝรั่งเศส โดยผู้กำกับ Marcel Carné นำแสดงโดย Jean-Louis Barrault”
  76. (=73) The Grand Illusion (1937) : France – Jean Renoir
    “La Grande Illusion หนังสงครามที่ไม่มีฉากสงครามของ Jean Renoir พบสุดยอดการแสดงของ Jean Gabin และ Erich von Stroheim ดูแล้วคุณจะเข้าใจว่า สงครามคืออะไร!”
  77. (=73) Nashville (1975)
  78. Chinatown (1974)
  79. (=78) Beau Travail (1999)
  80. (=78) Once Upon a Time in the West (1968)
  81. (=78) The Magnificent Ambersons (1942)
  82. (=78) Lawrence of Arabia (1962) : David Lean
    “Lawrence of Arabia ภาพจากหนังมีความสวยงามในระดับที่สุดที่กล้องถ่ายภาพจะสามารถบันทึกได้ และเพลงประกอบที่ไพเราะที่สุดในโลก นี่คือหนังที่ต้องดูให้ได้ ห้ามตายก่อนดู”
  83. (=78) The Spirit of the Beehive (1973) Spain : Víctor Erice ♥♥♥♥
    “The Spirit of the Beehive คือ ประวัติศาสตร์โดยย่อยุคเผด็จการ Franco ของสเปน ในคราบการเติบโตของเด็กน้อยไร้เดียงสา ผลงาน Masterpiece ของ Víctor Erice และสุดยอดการแสดงของเด็กหญิง Ana Torrent”
  84. Fanny and Alexander (1984) : Ingmar Bergman
    “Fanny and Alexander หนัง Drama-Period เรื่องสุดท้ายของ Ingmar Bergman เนื้อเรื่องที่เข้มข้น การถ่ายภาพ ออกแบบฉาก ชุดเสื้อผ้าที่จัดเต็ม นี่เป็นหนังที่มีแฝงแนวคิดการใช้อำนาจในครอบครัวได้อย่างยอดเยี่ยม”
  85. (=84) Casablanca (1942) hollywood : Michael Curtiz ♥♥♥♥♡
    “Casablanca เป็นหนังที่ทำตัวเหมือนหญิงสาว ให้เราตกหลุมรักแล้วแยกจาก กาลเวลาผ่านไปกลับมารับชมอีก เกิดความหวนระลึกนึกถึงอดีต พอหนังจบก็เล่นตัวจากไปอีก”
  86. (=84) The Color of Pomegranates (1969) USSR : Sergei Parajanov ♥♥♥♥
    “The Color of Pomegranates เป็นหนังดูด้วยตาไม่มีวันเข้าใจ ดูด้วยสมองยังไม่แน่ว่าจะรู้เรื่อง ต้องใช้จิตวิญญาณสัมผัสเอาเท่านั้น จะรู้ว่านี่คือสุดยอดหนัง”
  87. (=84) Greed (1924) hollywood : Erich von Stroheim ♥♥♥♡
    “Greed ของ Erich von Stroheim คือ หนังที่สมบูรณ์แบบในความไม่สมบูรณ์”
  88. (=84) A Brighter Summer Day (1991) Taiwanese : Edward Yang ♥♥♥♥♡
    “A Brighter Summer Day คือจักรวาลชีวิตของผู้กำกับ Edward Yang”
  89. (=84) The Wild Bunch (1969) hollywood : Sam Peckinpah ♥♥♥♡
    “The Wild Bunch นำโดยหัวโจ๊ก Sam Peckinpah บรรจงนำเสนอความรุนแรงออกมาในระดับที่อาจยินยอมรับไม่ได้ แต่ในความอัปลักษณ์เลือดท่วมนั้นมีความสวยงามสมบูรณ์แบบ”
  90. Partie de Campagne (1936)
  91. (=90) Aguirre: The Wrath of God (1972) : Germany – Werner Herzog
    “Aguirre, the Wrath of God หนังอาจจะสวยงาม สมจริงและดูยิ่งใหญ่ แต่แลกมาด้วยกับการเสี่ยงตายที่ไร้สาระ มีนักแสดงสุดบ้า Klaus Kinski ต่อกรกับผู้กำกับโคตรบ้า Werner Herzog เป็นมวยคู่ที่สมศักดิ์ศรีสุดๆ”
  92. (=90) A Matter of Life and Death (1946)
  93. (=90) The Seventh Seal (1957) Swedish : Ingmar Bergman ♥♥♥♥
    “The Seventh Seal ของ Ingmar Bergman ได้ทำให้ความตายกลายเป็นอมตะ”
  94. (=90) Un Chien Andalou (1929) French : Luis Buñuel ♥♥♥♥
    “Un Chien Andalou หนังสั้น Surrealist เรื่องแรกของโลก ที่สุดบ้าคลั่งของ Luis Buñuel และ Salvador Dalí มีความเฉพาะตัวสูงมากๆ ไม่เหมาะกับทุกคน”
  95. (=90) Intolerance (1916) : D.W. Griffith
    “Intolerance หนัง Epic อลังการระดับตำนานที่มีการตัดต่ออันเหนือชั้น เปรียบเหมือนตำราเรียนขึ้นหิ้งโดยบรมครู D.W. Griffith”
  96. (=90) Yi Yi (2000) Taiwan : Edward Yang ♥♥♥♥♥“Yi Yi ของ Edward Yang เป็นหนังครอบครัวระดับ MASTERPIECE ที่ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
  97. (=90) The Life and Death of Colonel Blimp (1943)
  98. (=90) Touki Bouki (1973)
  99. (=90) Ali: Fear Eats the Soul (1974)
  100. (=90) Imitation of Life (1959)
  101. (=90) The Earrings of Madame De… (1953)
  102. Wavelength (1967)
  103. (=102) The Conformist (1970) Italian : Bernardo Bertolucci ♥♥♥♥
    “The Conformist คือทัศนะทางการเมืองของ Bernardo Bertolucci นำเสนอด้วยความรู้สึกผ่านตัวละครของ Jean-Louis Trintignant ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
  104. (=102) The Traveling Players (1975)
  105. (=102) Meshes of the Afternoon (1943)
  106. (=102) Two or Three Things I Know About Her (1967) French : Jean-Luc Godard ♥♥♥
    “Two or Three Things I Know About Her คือ Essay เรียงความฉบับภาพยนตร์ของ Jean-Luc Godard ที่ใช่ว่าจะมีคนอยากอ่านเสียเท่าไหร่”
  107. (=102) The Tree of Life (2011) hollywood : Terrence Malick ♥♥♥♥♡
    “Tree of Life คือการค้นหาทางจิตวิญญาณของ Terrence Malick เฉพาะผู้ถูกเลือกเท่านั้นที่จะพบเห็นความสวยงามของชีวิต”
  108. (=102) Ivan the Terrible (1944, 1958) USSR : Sergei Eisenstein ♥♥♥
    “Ivan the Terrible คือจุดสิ้นสุดของ Sergei Eisenstein ทั้งยุคสมัยและชีวิต”
  109. (=102) Last Year at Marienbad (1961) French : Alain Resnais ♠♠♠♠♠
    “Last Year at Marienbad ของ Alain Resnais มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้ อาจมีเกิดขึ้น ไม่มีเกิดขึ้น หรืออาจมีไม่มีเกิดขึ้นก็ได้”
  110. The Lady Eve (1941)
  111. (=110) Los Olvidados (1950) Mexican : Luis Buñuel ♥♥♥♥
    “Los Olvidados ในมุมมองของ Luis Buñuel โลกใบนี้โหดโฉดเลวร้ายสิ้นดี นี่เป็นความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับให้ได้”
  112. (=110) Bringing Up Baby (1938) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♥♡
    “Bringing Up Baby หนังตลกไร้สาระขบขันที่สุดของ Howard Hawks กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ Katharine Hepburn และ Cary Grant”
  113. (=110) Performance (1970)
  114. (=110) The Passenger (1974)
  115. (=110) Viridiana (1961) Spainish : Luis Buñuel ♥♥♥
    “Viridiana เป็นหนังที่น่าจะเxย เลวร้ายที่สุด ที่ Luis Buñuel จะสามารถสร้างให้ออกฉายได้”
  116. (=110) L’Age d’Or (1930) French : Luis Buñuel ♥♥♥♡
    “L’Age d’Or เป็นหนัง Surrealist ขนาดยาวเรื่องแรกของ Luis Buñuel และ Salvador Dalí ที่เพิ่มความท้าทายคือการเสียดสีวิถี ความเชื่อที่เห็นแล้วแสบๆคันๆ เกายังไงก็ไม่หาย”
  117. A Canterbury Tale (1944)
  118. (=117) Mouchette (1967) French : Robert Bresson ♥♥♡
    “Mouchette สาวน้อยผู้น่าสงสาร ดีแล้วที่ตอนจบเธอจากไป โลกใบนี้ที่ Robert Bresson สร้างมา มันช่างไม่น่าอภิรมย์เสียเลย”
  119. (=117) Dr. Strangelove (1964) hollywood : Stanley Kubrick ♥♥♥♥♥
    “Dr. Strangelove ได้พลิกโลกให้กลับตารปัตร นำเรื่องอึดอัดอั้น อกแตกตาย มาทำการเสียดสี ล้อเลีย(น) น้ำแตก ขี้กระจาย”
  120. (=117) Nosferatu (1922) German : F. W. Murnau ♥♥♥♡
    “Nosferatu ฉบับของ F. W. Murnau แม้จะไม่สามารถหลอกหลอนผู้ชมปัจจุบันได้ แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Dracula ที่ยิ่งใหญ่”
  121. (=117) The Red Shoes (1948) : Michael Powell & Emeric Pressburger
    “The Red Shoes หนังที่สมบูรณ์พร้อมในทุกด้าน ภาพสวย เพลงเพราะ ตัดต่อฉับไว ออกแบบฉากอลังการ โดยผู้กำกับ Michael Powell & Emeric Pressburger พบกับสุดยอดการแสดงบัลเล่ต์ของ Moira Shearer และการแสดงของ Anton Walbrook ที่ลึกล้ำ คอหนังไม่ควรพลาด”
  122. (=117) Trouble in Paradise (1932)
  123. (=117) A City of Sadness (1989) : Taiwan – Hou Hsiao-Hsien
    “Hou Hsiao-Hsien สามารถถ่ายทอดบรรยากาศ ความรู้สึกของผู้คนในช่วง การสังหารหมู่ 228 ออกมาใน A City of Sadness ได้สมจริงและเหนือชั้นมากๆ”
  124. (=117) Amarcord (1972) : Italy – Federico Fellini
    “Amarcord หนังสุด nostalgia ที่จะนำคุณไประลึกถึงความหลังวัยเด็กได้อย่างสมจริงและเพลิดเพลินไปกับเพลงประกอบที่แสนไพเราะโดย Nino Rota อีกหนึ่ง masterpiece ของ Federico Fellini ที่คอหนังห้ามพลาด”
  125. (=117) The Man Who Shot Liberty Valance (1962) hollywood : John Ford ♥♥♥♥♡
    “The Man Who Shot Liberty Valance ไม่ว่า John Wayne หรือ James Stewart จะเป็นคนยิง แต่ผู้ได้รับเสรีภาพคือ John Ford”
  126. (=117) Days of Heaven (1978) hollywood : Terrence Malick ♥♥♥♥
    “Days of Heaven คือภาพความทรงจำวันวานของ Terrence Malick ที่สวยงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์”
  127. Spring in a Small Town (1948) : China – Fei Mu
    “Spring in a Small Town หนังจีนแผ่นดินใหญ่ที่สุดคลาสสิค มีความสวยงาม เนื้อเรื่องที่แฝงตัวตนของผู้กำกับ ฤาผู้กำกับ Fei Mu จะเป็นคนที่ถูก underrated ที่สุดในเอเชีย”
  128. (=127) Do the Right Thing (1989)
  129. (=127) Out 1 (1990)
  130. (=127) สัตว์ประหลาด (2004) : อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
    “หนังไทยที่ยอดเยี่ยมที่สุด!”
  131. (=127) The River (1951) : France – Jean Renoir
    “The River อีกหนึ่ง masterpiece ของ Jean Renoir กับการเปิดโลกทัศน์ของชาวตะวันตกต่อประเทศ India ที่มีความสวยงาม ไพเราะ ที่แตกต่างในเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต คนสมัยนี้อาจจะไม่ประทับใจอะไรกับหนังมาก แต่มันคือความคลาสสิคที่กลายเป็นอมตะ”
  132. (=127) Jules et Jim (1962) French : François Truffaut ♥♥♥♥
    “Jules et Jim เป็นหนังที่เต็มไปด้วยภาษาภาพยนตร์ในสไตล์ของ François Truffaut กับสุดยอดการแสดงของ Jeanne Moreau ถ่ายภาพโดย Raoul Coutard และเพลงประกอบสุดไพเราะโดย Georges Delerue”
  133. (=127) Pulp Fiction (1994) hollywood : Quentin Tarantino ♥♥♥♥
    “Pulp Fiction คือตั๋วหนังราคาถูกของ Quentin Tarantino แต่คุณภาพความบันเทิงกลับล้นคลั่ง”
  134. (=127) Meet Me in St. Louis (1944) hollywood : Vincente Minnelli ♥♥♥♥♥
    “Meet Me in St. Louis ยังคงสวยสดใส เหมือนการหวนระลึกถึงความทรงจำวัยเด็ก อิ่มเอิบ อบอุ่น สุขใจ และอาจเป็นหนังยอดเยี่ยมที่สุดของ Judy Garland”
  135. (=127) L’argent (1983)
  136. (=127) Ikiru (1952) : Japan – Akira Kurosawa
    “Ikiru หนังของ Akira Kurosawa นำแสดงโดย Takashi Shimura นี่คือหนังที่ต้องดูให้ได้ก่อนตาย คุณค่าของหนังเรื่องนี้คือการคิดตามเมื่อดูจบ ว่าฉันเกิดมาเพื่ออะไร? มีชีวิตที่คุ้มค่าหรือไม่?”
  137. (=127) Three Colors: Blue (1993)
  138. (=127) Don’t Look Now (1973) British : Nicolas Roeg ♥♥♥♥♡
    “Don’t Look Now ของ Nicolas Roeg ท้าทายความคิดของมนุษย์กับความเชื่อในสิ่งลึกลับ สุดยอดทั้งงานภาพ ตัดต่อ และการแสดงของ Donald Sutherland กับ Julie Christie”
  139. (=127) Celine and Julie Go Boating (1974)
  140. (=127) Annie Hall (1977) hollywood : Woody Allen ♥♥♥♡
    “Annie Hall ไม่ใช่แค่หนังรักรอมคอมของ Woody Allen กับ Diane Keaton แต่คืออัตชีวประวัติเรื่องเยี่ยมที่สุดในโลก”
  141. (=127) The Apartment (1960) : Billy Wilder
    “The Apartment หนังที่ต้องดูให้ได้ก่อนตายของ Billy Wilder นำแสดงโดย Jack Lemmon กับ Shirley MacLaine เพลงประกอบสุดไพเราะ Jealous Lover ที่ดูจบแล้วคุณจะหลงใหลในหนังเรื่องนี้”
  142. (=127) The Last Laugh (1924) German : F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
    “The Last Laugh คือหนังเงียบที่แท้จริง”
  143. (=127) Hiroshima mon amour (1959) French : Alain Resnais ♥♥♥♥♡
    “Hiroshima mon amour ของ Alain Resnais คือจดหมายรัก ที่ย้ำเตือนไม่ให้ผู้ชมลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Hiroshima นำแสดงโดย Emmanuelle Riva และ Eiji Okada”
  144. Blow-Up (1966) British : Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥♡
    “Blow-Up ของผู้กำกับ Michelangelo Antonioni เป็นเทรนด์แฟชั่นที่แม้ปัจจุบันอาจดูตกยุค แต่ยังมีความล้ำสมัย”
  145. (=144) The Great Dictator (1940) hollywood : Charlie Chaplin ♥♥♥♡
    “The Great Dictator คือความตั้งใจอันดีของ Charlie Chaplin แต่ก็ทำให้รู้ว่าหนังพูดไม่เหมาะกับเขาเท่าไหร่”
  146. (=144) Memories of Underdevelopment (1966)
  147. (=144) Diary of a Country Priest (1951) French : Robert Bresson ♥♥
    “Diary of a Country Priest ของ Robert Bresson อาจเป็นหนัง Catholic ที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่กับศาสนาอื่น”
  148. (=144) Chungking Express (1994) Hong Kong : Wong Kar-wai ♥♥♥♥♥
    “Chungking Express หนังที่มีเรื่องราวและบรรยากาศสไตล์ของ Wong Kar-Wai ที่จะทำให้คุณอกหัก ตกหลุมรัก แล้วจะอกหัก และตกหลุมรัก อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
  149. (=144) To Be or Not to Be (1942)
  150. (=144) A Woman Under the Influence (1974)
  151. (=144) Napoléon (1927) French : Abel Gance ♥♥♥♥
    “Napoléon อีกหนึ่ง Holy Grail ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ เพราะเรื่องราวที่ค้างคา แต่คุณภาพเป็นเลิศ”
  152. (=144) Vivre sa vie (1962) French : Jean-Luc Godard ♥♥♥♡
    “Vivre sa vie การสร้างทฤษฎีปรัชญาด้วยภาษาภาพยนตร์ของ Jean-Luc Godard เป็น Masterpiece ที่คงหาดูที่ไหนอีกไม่ได้แล้ว”
  153. (=144) The Wizard of Oz (1939) hollywood : Victor Fleming ♥♥♥♥
    “The Wizard of Oz แม้จะไม่ใช่หนังที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ แต่ไม่เคยมีใครหยุดพูดถึง เด็กๆรับชมจะเรียนรู้จดจำนำไปเป็นแบบอย่าง ส่วนผู้ใหญ่จะมองเห็นความคุณค่าในสิ่งที่ต่างออกไป”
  154. Marketa Lazarová (1967)
  155. (=154) Caché (2005)
  156. (=154) The Shining (1980) hollywood : Stanley Kubrick ♥♥♥♥
    “The Shining คือความเสียสติแตกของ Jack Nicholson แต่ผู้กำกับ Stanley Kubrick ถือว่าบ้าคลั่งไร้สติสมประดี”
  157. (=154) Solaris (1972) : Russia – Andrei Tarkovsky
    “Solaris กำกับโดย Andrei Tarkovsky สวยงาม ลึกซึ้ง ถ้าเปรียบ 2001 A Space Odyssey คือด้านสว่างของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับจักรวาล Solaris คือด้านมืดที่อยู่ข้างในจิตใจของมนุษย์และจักรวาล”
  158. (=154) Chimes at Midnight (1965) : Orson Welles ♥♥♥♥♡
    “Chimes at Midnight เป็น magnum opus ของ Orson Welles คือชีวิตจริง ตัวตน ปรัชญา ความไม่อยากแต่จำเป็น โอ้! ทำไมชีวิตของอัจฉริยะถึงได้เป็นแบบนี้”
  159. (=154) The Gold Rush (1925) hollywood : Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
    “The Gold Rush ทองแท้อยู่ในภูเขา เช่นเดียวกับจิตใจที่ดีของคนอยู่ภายใน ไม่ใช่หน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอก”
  160. (=154) Letter From an Unknown Woman (1948)
  161. (=154) Brief Encounter (1945) British : David Lean ♥♥♥♥♡
    “Brief Encounter ของ David Lean มีความอมตะที่สวยงาม กับความรักที่อยู่ในธรรมเนียม”
  162. (=154) In a Lonely Place (1950)
  163. (=154) Black Narcissus (1947) : Michael Powel & Emeric Pressburger
    “Black Narcissus โดยผู้กำกับ Michael Powell และ Emeric Pressburger นำแสดงโดย Deborah Kerr พบกับเรื่องราวที่แฝงแนวคิด เชิงจิตวิทยาวิเคราะห์ที่ตัวละครมีความลึกลับซ้ำซ้อน ภาพสวย ออกแบบฉากยอดเยี่ยม จัดเป็นอีกหนึ่งสุดยอดหนังที่ไม่ควรพลาด”
  164. (=154) My Neighbor Totoro (1988) Japanese : Hayao Miyazaki ♥♥♥♥
    “My Neighbor Totoro คือเพื่อนรักในจินตนาการของ Hayao Miyazaki ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวงการภาพยนตร์”
  165. (=154) Only Angels Have Wings (1939) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♡
    “Only Angles Have Wings คือคำอธิษฐานของผู้กำกับ Howard Hawks ที่อยากแก้ตัวใหม่ในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดไป”
  166. (=154) Vampyr (1932) French : Carl Theodor Dreyer ♥♥♥♥
    “Vampyr หนังแวมไพร์ขึ้นหิ้งของ Carl Theodor Dreyer แค่เพียงเงา ก็ทำให้คุณฝันร้ายได้”
  167. (=154) Come and See (1985) USSR : Elem Klimov ♥♥♥♥♡
    “Come and See เข้ามาและหันหน้ายอมรับกับความจริงในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น สุดยอดหนังที่มีความทรงพลัง ทั้งงานภาพ เสียง การแสดง ตัดต่อ นี่คือหนังเกี่ยวกับสงครามที่ดีที่สุดในโลก”
  168. (=154) Distant Voices, Still Lives (1988)
  169. (=154) Once Upon a Time in America (1983)
  170. (=154) Cries and Whispers (1972) Swedish : Ingmar Bergman ♥♥♥♡
    “Cries and Whispers ของ Ingmar Bergman ถ้าหนังไม่ทำให้คุณร้องไห้ ก็จะได้ยินแค่เสียงกระซิบกระซาบ”
  171. King Kong (1933) : Merian C. Cooper & Ernest B. Schoedsack
    “King Kong ต้นฉบับ 1933 มีก้าวกระโดดที่สำคัญต่อวงการ Visual Effect และเพลงประกอบหนัง แต่เดินถอยหลังด้วยแนวคิด Racism ที่ชั่วร้ายมาก”
  172. (=171) The Werckmeister Harmonies (2000)
  173. (=171) Star Wars (1977)
  174. (=171) Notorious (1946) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥
    “ยิ่งฉาวยิ่งดัง ความฉาวโฉ่ใน Notorious คือความอมตะของ Ingrid Bergman และ Cary Grant โดยผู้กำกับ Alfred Hitchcock”
  175. (=171) His Girl Friday (1940) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♥♡
    “His Girl Friday หนัง Screwball Comedy ที่น่าจะไร้สาระของ Howard Hawks นำแสดงโดย Cary Grant และ Rosalind Russel แต่กลับตั้งคำถามเกี่ยวกับจรรยาบรรณ และความคอรัปชั่นของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง”
  176. (=171) Goodfellas (1990)
  177. (=171) The Umbrellas of Cherbourg (1964) French : Jacques Demy ♥♥♥♥♡
    “Les Parapluies de Cherbourg เรียบง่าย กินใจ เป็นหนังเพลงที่ทรงพลังที่สุดในโลก”
  178. (=171) A Trip to the Moon (1902) French : Georges Méliès ♠♠♠♠♠
    “A Trip to the Moon ของผู้กำกับ George Méliès ถือว่าได้ทำความฝันของมนุษย์ชาติให้กลายเป็นจริง”
  179. (=171) Sweet Smell of Success (1957)
  180. (=171) Kind Hearts and Coronets (1949)
  181. (=171) Tabu (1931)
  182. (=171) Earth (1930) Ukrainian : Alexander Dovzhenko ♥♥♥♡
    “Earth คือหนังที่มีความงดงามดังบทกวี ทั้งงานภาพ การแสดง และเรื่องราวที่แฝงใจความอันลึกซึ้ง”
  183. Breaking the Waves (1996)
  184. (=183) The Grapes of Wrath (1940) hollywood : John Ford ♥♥♥♥
    “The Grapes of Wrath ของผู้กำกับ John Ford แม้เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดของ Henry Fonda แต่ก็อ่อนโยนเบาลงด้วยความซาบซึ้งกินใจของ Jane Darwell”
  185. (=183) Paris, Texas (1984) German : Wim Wenders ♥♥♥♥♡
    “Texas, Paris ของผู้กำกับ Wim Wenders ล่องลอยเรื่อยเปื่อยสู่เป้าหมายที่อาจเดินไม่พบคำตอบ แต่มีความสวยงามราวกับบทกวี”
  186. (=183) E.T. (1982)
  187. (=183) Rome, Open City (1945) Italian : Roberto Rossellini ♥♥♥♥
    “Rome, Open City คือ Masterpiece ของ Roberto Rossellini ถึงการสร้างที่มีข้อจำกัดมากมาย แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ในระดับที่กลายเป็นเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของวงการภาพยนตร์อิตาเลี่ยน”
  188. (=183) Faces (1968)
  189. (=183) The Music Room (1958) Bollywood : Satyajit Ray ♥♥♥♥♡
    “The Music Room คือห้องแสดงดนตรีแห่งศักดิ์ศรี กินไม่ได้แต่ฆ่าคนได้ สุดยอดหนังโดยปรมาจารย์ Satyajit Ray ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
  190. (=183) The Story of the Late Chrysanthemum (1939)
  191. (=183) A Touch of Zen (1971) Taiwanese : King Hu ♠♠♠♠♠
    “A Touch of Zen สัมผัสแห่งการหลุดพ้นของ King Hu ผลงานระดับ Masterpiece ที่สวยงาม ตราตรึง ลึกซึ้ง ไร้เทียมทาน”
  192. (=183) Listen to Britain (1942)
  193. (=183) Day of Wrath (1943)
  194. (=183) The Thin Red Line (1998) hollywood : Terrence Malick ♥♥♥♥
    “The Thin Red Line ตั้งคำถามปรัชญาสงคราม ความขัดแย้ง และการต่อสู้ งดงามวิจิตรในสไตล์ของ Terrence Malick”
  195. (=183) Eraserhead (1976)
  196. (=183) The Texas Chain Saw Massacre (1974) hollywood : Tobe Hooper ♥♥♥
    “The Texas Chain Saw Massacre คือ Masterpiece ของหนังแนว Horror สวยงามล้ำในแง่ของศิลปะ แต่ไร้ซึ่งขอบเขตจิตสำนึก เหตุผลทางมโนธรรม”
  197. (=183) The Discreet Charm of the Bourgeoisie (1972) French : Luis Buñuel ♥♥♥♥♡
    “The Discreet Charm of the Bourgeoisie นี่น่าจะเป็นหนังที่ดูง่าย สนุกที่สุด ตลกที่สุดของ Luis Buñuel”
  198. (=183) The Conversation (1974)
  199. (=183) Out of the Past (1947)
  200. (=183) I Was Born, But… (1932) Japan : Yasujirô Ozu ♥♥♥♥◊
    “I Was Born, But… แม้จะเป็นผลงานในยุคแรกๆของ Yasujirô Ozu แต่ยังโดดเด่นในสไตล์และเรื่องราวแฝงแนวคิดการใช้ชีวิต ต่อเด็กและผู้ใหญ่”
  201. (=183) I Know Where I’m Going! (1945)
  202. The Death of Mr. Lazarescu (2005)
  203. (=202) Red Desert (1964)
  204. (=202) Chelsea Girls (1966)
  205. (=202) Badlands (1973)
  206. (=202) Kings of the Road (1976)
  207. (=202) There Will Be Blood (2007)
  208. (=202) WALL-E (2008)
  209. (=202) Berlin Alexanderplatz
  210. (=202) Videodrome (1983)
  211. (=202) Daisies (1966)
  212. (=202) Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives (2010)
  213. (=202) Manhattan (1979) hollywood : Woody Allen ♥♥♥♥♡
    “Manhattan ผลงาน Masterpiece ของ Woody Allen สวยล้ำด้วยภาพขาว-ดำ ของ Gordon Willis และยิ่งใหญ่ทรงพลังด้วยบทเพลงของ George Gershwin”
  214. (=202) Cleo from 5 to 7 (1962)
  215. (=202) West of the Tracks (2002)
  216. (=202) Russian Ark (2002)
  217. (=202) A Tale of Tales (1979)
  218. (=202) Spirited Away (2001) Japanese : Hayao Miyazaki ♥♥♥♥♥
    “ถอดวิญญาณล่องลอยไปกับ Spirited Away ในโลกของ Hayao Miyazaki แค่เพียงบทเพลงของ Joe Hisaishi ก็ทำให้คุณไม่อยากหวนกลับคืนร่างแล้ว”
  219. (=202) La Strada (1954) Italian : Federico Fellini ♥♥♥♥♡
    “La Strada คือเหตุผลการมีตัวตนของผู้กำกับ Federico Fellini มี Anthony Quinn กับ Giulietta Masina เป็นตัวตายตัวแทนได้อย่างซาบซึ้งกินใจที่สุดแล้ว”
  220. (=202) Paisan (1946) Italian : Roberto Rossellini ♥♥♥♡
    “Paisà ของผู้กำกับ Roberto Rossellini แม้การสื่อสารทางภาษาจะเข้าใจไม่ตรงกัน แต่หนังมีใจความสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ทั้งในแง่เรื่องราวและสาสน์ในสื่อภาพยนตร์”
  221. (=202) The Shop Around the Corner (1940) hollywood : Ernst Lubitsch ♥♥♥♥
    “The Shop Around the Corner ร้านของผู้กำกับ Ernst Lubitsch ถึงจะหลบซ่อนอยู่ตรงหัวมุม แต่ James Stewart กับ Margaret Sullavan กลับไม่เคยเดินเข้าร้านผิด”
  222. (=202) The Big Sleep (1946)
  223. (=202) Killer of Sheep (1977)
  224. (=202) Wanda (1970)
  225. (=202) Germany Year Zero (1948)
  226. (=202) The Life of Oharu (1952) : Japan – Kenji Mizoguchi
    “The Life of Oharu อีกหนึ่ง masterpiece จาก Kenji Mizoguchi นำแสดงโดย Kinuyo Tanaka อย่าเพิ่งยอมแพ้ถ้าคิดว่าตัวเองโชคร้าย ไม่มีใครในโลกที่จะซวยได้มากกว่า Oharu อีกแล้ว”
  227. (=202) Army of Shadows (1969)
  228. (=202) Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
  229. (=202) Duck Soup (1933)
  230. (=202) The Devil Probably (1977)
  231. (=202) The Turin Horse (2011)
  232. (=202) Love Streams (1984)
  233. (=202) The Exterminating Angel (1962) Mexican : Luis Buñuel ♥♥♥♥
    “The Exterminating Angel ถึง Luis Buñuel จะสามารถฉุดนางฟ้าให้ตกสวรรค์ได้สำเร็จ แต่ตัวเขากลับขึ้นสวรรค์กลายเป็นตำนานค้างฟ้า สอยยังไงก็ไม่มีวันตก”
  234. (=202) Floating Clouds (1955) Japanese : Mikio Naruse ♥♥♥♥
    “Floating Clouds ผลงาน Masterpiece ของ Mikio Naruse ที่จะทำให้คุณล่องลองเหมือนก้อนเมฆ ตามหาจุดเชื่อมกันระหว่างความฝันกับความจริง”
  235. The Piano (1993)
  236. (=235) Gone with the Wind (1939) : Victor Fleming
    “Gone With The Wind หนังที่คุณต้องดูให้ได้สักครั้งก่อนตาย กับเรื่องราวสุด Epic ความยาวเกือบ 4 ชั่วโมง และ 2 นักแสดงนำที่เคมีเข้ากันที่สุด Clark Gable และ Vivien Leigh ดูจบแล้วคุณจะล่องลอยไปกับสายลมราวกับอยู่บนวิมาน”
  237. (=235) Melancholia (2011)
  238. (=235) The House Is Black (1962)
  239. (=235) The Cabinet of Dr. Caligari (1920) German : Robert Wiene ♥♥♥♥
    “The Cabinet of Dr. Caligari สิ่งที่ซ่อนอยู่ในตู้ของผู้กำกับ Robert Wiene คือ German Expressionist ที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งสมบูรณ์แบบ”
  240. (=235) Red River (1948) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♥
    “Red River ลำธารที่ Howard Hawks ให้ John Wayne กับ Montgomery Clift ต้อนวัวข้ามไปนี้ มีความกว้างใหญ่อลังการที่สุดแล้ว”
  241. (=235) A Clockwork Orange (1971) : Stanley Kubrick
    “A Clockwork Orange มนุษย์ที่เปรียบเสมือนเครื่องจักร อีกหนึ่ง Masterpiece จาก Stanley Kubrick นำแสดงโดย Malcom McDowell นี่คือหนังเรต X ที่รุนแรงแต่ยอดเยี่ยมมากๆ”
  242. (=235) Two-Lane Blacktop (1971)
  243. (=235) An Autumn Afternoon (1962)
  244. (=235) The Thin Blue Line (1989)
  245. (=235) The World of Apu (1958) : India – Satyajit Ray
    “Apur Sansar ปิดไตรภาค The Apu Trilogy ของ Satyajit Ray ได้อย่างสวยงามที่สุดในโลก”
  246. (=235) The Testament of Dr. Mabuse (1933)
  247. (=235) My Darling Clementine (1946) hollywood : John Ford ♥♥♥♥
    “My Darling Clementine คือภาพยนตร์ Western ที่มีความสุภาพอ่อนหวานที่สุดของ John Ford และ Henry Fonda”
  248. (=235) The Double Life of Veronique (1991)
  249. (=235) Kes (1969)
  250. (=235) Three Colors: Red (1994)
  251. (=235) The Big Lebowski (1998) hollywood : Joel Coen ♥♥♥♥♡
    “The Big Lebowski หนังติสต์ๆของคนแนวๆ โดย Coen Brothers และสุดยอดการแสดงของ Jeff Bridges ที่อาจทำให้คุณกลายเป็น The Dude โดยไม่รู้ตัว”
  252. (=235) The White Ribbon (2010)

reference : http://www.bfi.org.uk/films-tv-people/sightandsoundpoll2012/critics